Open Large Modal
×
หน้าหลัก
(current)
เทศบาลนครหาดใหญ่
ข้อมูลพื้นฐาน
ประวัติหาดใหญ่
ประวัติเทศบาลนครหาดใหญ่
ตราสัญลักษณ์
วิสัยทัศน์/พันธกิจ/เป้าประสงค์
อำนาจหน้าที่
สำนัก/กอง
ชุมชน
ยุทธศาสตร์
สภาพน้ำและอากาศ
โพลสำรวจความคิดเห็นโครงการ
รางวัลแห่งความสำเร็จ
รายงานความคืบหน้าโครงการสำคัญ
คณะผู้บริหาร
หัวหน้าส่วนราชการ
สภาเทศบาลนครหาดใหญ่
ผู้อำนวยการสถานศึกษา
ทำเนียบนายกเทศมนตรี
ทำเนียบปลัดเทศบาล
ความเป็นมาสมัชชาประชาชน
ผลการดำเนินงานสมัชชาประชาชน
ภาพกิจกรรม
นโยบายเร่งด่วน
นโยบายพัฒนาสังคม
นโยบายจัดการทรพัยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นโยบายพัฒนาเศรษฐกิจ
นโยบายพัฒนาการเมืองการบริหาร
นโยบายพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
แผนพัฒนาเทศบาล
แผนการดำเนินงาน
แผนการจัดหาพัสดุ
แผนอัตรากำลัง
เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่าย
มาตรการป้องกันการทุจริตในหน่วยงาน
มาตรฐานคุณธรรมจริยธรรม
แผนปฏิบัติการจัดซื้อจัดจ้าง
ประชาชน
สาร..หาดใหญ่
สถานี..หาดใหญ่
แล..หาดใหญ่
เสียง..หาดใหญ่
โพลสำรวจความคิดเห็นทั่วไป
เอกสารดาวน์โหลด
ข่าวประชาสัมพันธ์
ข่าวจัดซื้อจัดจ้าง
รายงาน/ประกาศ ผลการจัดซื้อจัดจ้าง
ข่าวจาก Facebook
ข่าวฝาก
ข่าวสั้น
ภาพกิจกรรม
ภาพกิจกรรมจาก Facebook
VDO กิจกรรม
ปฏิทินกิจกรรม
ศูนย์ข้อมูลข่าวสารเทศบาลนครหาดใหญ่
งานบริการ
คู่มือประชาชน
คำถาม คำตอบ
องค์ความรู้
บทความ
บทความ
โครงสร้างศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์
แนวปฏิบัติการจัดการเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์
รายงานผลการรับเรื่องราวร้องทุกข์ประจำปี
อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับศูนย์รับเรื่องราวทุกข์
ท่องเที่ยวลงทุน
ชม
ช๊อป
ชิม
ชิลล์
Top 10 ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุด
มาหาดใหญ่...ต้องไม่พลาด
ข้อมูลโรงแรม
สินค้า OTOP
เที่ยวหนุกหนานใน 1 วันที่หาดใหญ่
ตารางกิจกรรมท่องเที่ยว
ส่วนราชการ
ประกาศ/คำสั่ง
รายงาน/ประกาศ ผลการจัดซื้อจัดจ้าง
งบแสดงฐานะทางการเงินการคลัง
สถิติรายรับรายจ่าย
รายงานการประชุมสภาเทศบาล
รายงานการประชุมคณะผู้บริหาร
รายงานอื่นๆ
รายงานผลการติดตามรายไตรมาส
รายงานผลการดำเนินงานประจำปี
รายงานผลการดำเนินงานตามนโยบาย
รายงานผลความพึงพอใจของประชาชนต่อการดำเนินงานตามแผนพัฒนาเทศบาลนครหาดใหญ่
หนังสือราชการจากกรมฯ
หนังสือราชการจาก สถ.จ.
เทศบัญญัติ
กฎหมาย/ระเบียบ
การบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล
รวมแบบฟอร์มเอกสารดาวน์โหลดของเทศบาลนครหาดใหญ่
ระบบรับเรื่องราวร้องทุกข์ (Call Center สำหรับเจ้าหน้าที่)
ติดต่อเทศบาล
ติดต่อเทศบาล
หมายเลขโทรศัพท์ภายในสำนักงาน
หมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน
กระดานสนทนา
แบบฟอร์มร้องเรียน/ร้องทุกข์
ระบบติดตามเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ด้วยตนเอง
เลขที่บัตรประชาชน :
รหัสผ่าน :
ตรวจสอบ
ปิด
ลืมรหัสผ่าน
เข้าสู่ระบบเพื่อติดตามการแจ้งเหตุ
ชื่อผู้ใช้
รหัสผ่าน
forgotpassword?
login
เข้าสู่ระบบเพื่อค้นหาและดูรายงานสรุป
เรื่องร้องเรียนร้องทุกข์
(สำหรับเจ้าหน้าที่เท่านั้น)
ชื่อผู้ใช้
รหัสผ่าน
login
บริการประชาชน
น้องกุญชร
21.59
น้องกุญชร
สวัสดีจร้าาา...วันนี้มีอะไรให้น้องช่วยฮ่ะ ถามน้องกุญชรมาได้เลย จะรีบไปหาคำตอบให้ฮะ
21.59
เข้าสู่ระบบ
สำหรับเจ้าหน้าที่ดูแลเว็บไซต์
เข้าสู่ระบบ
หน้าหลัก
เทศบาลนครหาดใหญ่
ข้อมูลพื้นฐาน
ประวัติหาดใหญ่
ประวัติเทศบาลนครหาดใหญ่
ตราสัญลักษณ์
วิสัยทัศน์/พันธกิจ/เป้าประสงค์
อำนาจหน้าที่
สำนัก/กอง
คู่มือ/มาตรฐานการปฏิบัติงาน
ชุมชน
ยุทธศาสตร์
สภาพน้ำและอากาศ
รางวัลแห่งความสำเร็จ
รายงานความคืบหน้าโครงการสำคัญ
บุคลากร
คณะผู้บริหาร
หัวหน้าส่วนราชการ
สภาเทศบาลนครหาดใหญ่
ผู้อำนวยการสถานศึกษา
ทำเนียบนายกเทศมนตรี
ทำเนียบปลัดเทศบาล
ทำเนียบปลัดเทศบาล
โครงสร้างองค์กร
สมัชชาประชาชนนครหาดใหญ่
ความเป็นมาสมัชชาประชาชน
ผลการดำเนินงานสมัชชาประชาชน
ภาพกิจกรรม
นโยบาย
นโยบายเร่งด่วน
นโยบายพัฒนาสังคม
นโยบายจัดการทรพัยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นโยบายพัฒนาเศรษฐกิจ
นโยบายพัฒนาการเมืองการบริหาร
นโยบายพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
วิสัยทัศน์และการพัฒนา
แผนพัฒนาเทศบาล
แผนการดำเนินงาน
แผนการจัดหาพัสดุ
แผนอัตรากำลัง
เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่าย
มาตรการป้องกันการทุจริตในหน่วยงาน
มาตรฐานคุณธรรมจริยธรรม
แผนปฏิบัติการจัดซื้อจัดจ้าง
ประชาชน
สื่อประชาสัมพันธ์
สาร..หาดใหญ่
สถานี..หาดใหญ่
แล..หาดใหญ่
เสียง..หาดใหญ่
จับประเด็น
โพลสำรวจความคิดเห็นทั่วไป
เอกสารดาวน์โหลด
ข่าวสาร
ข่าวประชาสัมพันธ์
ข่าวจัดซื้อจัดจ้าง
รายงาน/ประกาศ ผลการจัดซื้อจัดจ้าง
ข่าวจาก Facebook
ข่าวฝาก
ข่าวสั้น
ภาพกิจกรรม
ภาพกิจกรรมจาก Facebook
VDO กิจกรรม
ปฏิทินกิจกรรม
ศูนย์ข้อมูลข่าวสารเทศบาลนครหาดใหญ่
บริการ/คู่มือประชาชน
งานบริการ
คู่มือประชาชน
องค์ความรู้ (Knowledge Management)
คำถาม คำตอบ
องค์ความรู้
บทความ
ติดต่อเทศบาล
หมายเลขโทรศัพท์ภายในสำนักงาน
หมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน
กระดานสนทนา
ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์
โครงสร้างศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์
แนวปฏิบัติการจัดการเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์
รายงานผลการรับเรื่องราวร้องทุกข์ประจำปี
อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับศูนย์รับเรื่องราวทุกข์
แจ้งเรื่องร้องเรียน/ร้องทุกข์
ขั้นตอนการร้องเรียน/ร้องทุกข์
แจ้งเรื่องร้องเรียน/ร้องทุกข์
ติดตามเรื่องร้องเรียน/ร้องทุกข์
ท่องเที่ยวลงทุน
Hatyai City Of Happiness
ชม
ช๊อป
ชิม
ชิลล์
Top 10 ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุด
มาหาดใหญ่...ต้องไม่พลาด
ข้อมูลโรงแรม
สินค้า OTOP
เที่ยวหนุกหนานใน 1 วันที่หาดใหญ่
ตารางกิจกรรมท่องเที่ยว
ส่วนราชการ
ประกาศ/คำสั่ง
รายงาน/ประกาศ ผลการจัดซื้อจัดจ้าง
รายงานสถานะการเงินการคลัง
งบแสดงฐานะทางการเงินการคลัง
สถิติรายรับรายจ่าย
รายงานการประชุมสภาเทศบาล
รายงานการประชุมคณะผู้บริหาร
รายงานอื่นๆ
รายงานผลการติดตามและประเมินผล
รายงานผลการติดตามรายไตรมาส
รายงานผลการดำเนินงานประจำปี
รายงานผลการดำเนินงานตามนโยบาย
รายงานผลความพึงพอใจของประชาชนต่อการดำเนินงานตามแผนพัฒนาเทศบาลนครหาดใหญ่
หนังสือสั่งการ
หนังสือราชการจากกรมฯ
หนังสือราชการจาก สถ.จ.
เทศบัญญัติ
กฎหมาย/ระเบียบ
การบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล
รวมแบบฟอร์มเอกสารดาวน์โหลดของเทศบาลนครหาดใหญ่
หนังสือเวียน
ITA
ระบบจัดเก็บเอกสารออนไลน์ (E-Document)
ระบบรับเรื่องราวร้องทุกข์ (Call Center สำหรับเจ้าหน้าที่)
ขนาดตัวอักษร
ก
ก
ก
ภาษา
Burmese
Chinese
English
Filipino
Indonesia
Japanese
Khmer
Korean
Laotian
Melayu
Thai
Vietnamese
Arabic
EN
TH
องค์ความรู้เพื่อการพัฒนา Knowledge Management (KM)
คำถาม คำตอบ
องค์ความรู้
บทความ
Q: ถามตอบ เรื่อง ไวรัสซิกา หรือ ไข้ซิกา
ไวรัสซิกา หรือ ไข้ซิกา เป็นอีกหนึ่งโรคที่มียุงลายเป็นพาหะ แม้จะยังไร้วัคซีนป้องกัน แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถหายได้เองภายใน 7 วัน ที่ต้องระวังคือเด็กทารกที่หากติดเชื้อแล้วอาจทำให้มีศีรษะเล็กกว่าปกติ
ถ้าว่ากันถึงภัยจากยุงลายที่เรารู้จักกันดีอย่างไข้เลือดออกแล้ว ยังมีอีกโรคหนึ่งชื่อ "ไวรัสซิกา" ที่เราควรรู้จักไว้ เพราะในช่วงปี 2558 โรคนี้ได้ระบาดหนักในแถบลาตินอเมริกา โดยเฉพาะประเทศบราซิลที่การระบาดรุนแรงจนต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และสถานการณ์ยังรุนแรงไม่หยุด ทำให้เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2559 องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ประกาศให้การระบาดของไวรัสซิกา เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ
ขณะที่ประเทศไทยก็พบผู้ติดเชื้อในหลายจังหวัด ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสซิกาเป็นหนึ่งในโรคติดต่อที่ต้องแจ้งความ ดังนั้นได้เวลาแล้วที่เราควรจะทำความรู้จักกับเจ้าเชื้อไวรัสซิกากันแบบจริงจัง แม้จะยังไม่ใช่เรื่องใกล้ตัว แต่ก็ไม่ควรละเลยด้วยประการทั้งปวงค่ะ
ไวรัสซิกา คืออะไร ?
ไวรัสซิกา หรือไข้ซิกา เป็นเชื้อไวรัสในตระกูลเฟลวิไวรัส (flavivirus) มีลักษณะคล้ายคลึงกับ ไวรัสไข้เหลือง ไวรัสเดงกี ซึ่งเป็นสาเหตุของไข้เลือดออก รวมทั้งไวรัสเวสต์ไนล์ที่เป็นสาเหตุของไข้สมองอักเสบ และเชื้อไวรัสไข้สมองอักเสบเจอีซึ่งทั้งหมดล้วนมียุงลายเป็นพาหะ เชื้อไวรัสซิกาถูกค้นพบครั้งแรกจากในน้ำเหลืองของลิงวอก ที่ถูกนำมายังป่าซิกาในประเทศยูกันดา เพื่อศึกษาไข้เหลือง เมื่อปี พ.ศ. 2490 และพบในคนเมื่อปี พ.ศ. 2511 ในประเทศไนจีเรีย เชื่อไวรัสซิกาพบได้ในประเทศแถบทวีปแอฟริกา ทวีปอเมริกา ทวีปเอเชียใต้ และหมู่เกาะในแถบมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก
ไวรัสซิกา กลุ่มเสี่ยงคือใคร
กลุ่มเสี่ยงติดเชื้อไวรัสซิกามากที่สุดคือ กลุ่มสตรีตั้งครรภ์ ซึ่งหากติดเชื้อแล้วจะทำให้ทารกในครรภ์ได้รับอันตรายด้วย คือจะทำให้เด็กมีศีรษะเล็กกว่าปกติ ดังนั้นจึงมีคำเตือนหญิงตั้งครรภ์ไม่ควรเดินทางไปในประเทศที่มีการระบาดของโลก หรือหากเป็นประชากรในประเทศที่มีการระบาดก็ขอให้ชะลอการตั้งครรภ์ออกไปก่อน แต่หากหญิงตั้งครรภ์มีอาการไข้ ผื่นขึ้น ตาแดง ปวดเมื่อยตามตัว ปวดข้อ ต้องรีบพบแพทย์ เพื่อทำการเจาะเลือดตรวจหาเชื้อ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้ป่วยที่มีไข้ออกผื่น กลุ่มเด็กทารกที่มีศีรษะลีบ และผู้ป่วยที่มีอาการปลายประสาทอักเสบ ก็ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงของโรคนี้
ไวรัสซิกา ติดต่อได้อย่างไร
ไวรัสซิกาเป็นเชื้อไวรัสที่มียุงลายเป็นพาหะ ดังนั้นการติดต่อจึงมาจากการถูกยุงที่มีเชื้อกัด นอกจากนี้ยังอาจติดต่อได้ทางเลือด หรือแพร่จากมารดาที่ป่วยสู่ทารกในครรภ์ อย่างไรก็ตามในตอนแรกยังไม่มีรายงานว่าพบการแพร่เชื้อจากคนสู่คน กระทั่งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2559 ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา ยืนยันว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสซิกาจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อที่เดินทางกลับมาจากประเทศที่ไวรัสชนิดนี้ระบาด นั่นแสดงว่าโรคนี้สามารถติดต่อกันได้ผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์
ไวรัสซิกา อาการเป็นอย่างไร
องค์การอนามัยโลกระบุว่า มีผู้ติดเชื้อราว 1 ใน 4 ที่จะแสดงอาการออกมาให้เห็นหลังได้รับเชื้อ ซึ่งจะปรากฏอาการคล้ายคลึงกับอาการของโรคไข้เลือดออก ได้แก่ มีผื่นแดงขึ้นตามตัว ไข้ขึ้นสูง เยื่อบุตาอักเสบ ปวดกล้ามเนื้อและข้อต่อ รู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัว และปวดหัว แต่อาการเหล่านี้สามารถทุเลาลงภายในเวลา 2-7 วัน หากได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและทันท่วงที ไม่รุนแรงเท่าโรคไข้เลือดออก แต่ถ้าหากปล่อยไว้ อาการอาจจะรุนแรงจนถึงขั้นทำให้ระบบการทำงานของสมองผิดปกติได้ ทั้งนี้หากเป็นผู้ป่วยหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ เชื้อไวรัสดังกล่าวอาจจะทำให้เกิดความผิดปกติกับทารกในครรภ์ ซึ่งจะทำให้ทารกมีความผิดปกติที่ศีรษะ โดยจะมีกะโหลกศีรษะและสมองที่เล็กกว่าปกติ
ไวรัสซิกา รักษาอย่างไร
แม้จะเป็นโรคที่ไม่รุนแรง แต่โรคไวรัสซิกา ก็ยังเป็นโรคที่ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน หรือวิธีการรักษาที่แน่ชัด ทำได้แค่เพียงรักษาตามอาการเช่นเดียวกับโรคไวรัสอื่น ๆ ที่มียุงลายเป็นพาหะ ดังนั้นผู้ป่วยควรพักผ่อนมาก ๆ และดื่มน้ำให้เพียงพอ ทานยาตามแพทย์สั่ง นอกจากนี้ก็ยังควรระมัดระวังไม่ให้เกิดอาการแทรกซ้อนที่ไม่พึงประสงค์อื่น ๆ อีกด้วย
ไวรัสซิกา ป้องกันได้อย่างไร
วิธีป้องกันที่ดีที่สุดของโรคไวรัสซิกา หรือไข้ซิกาก็คือพยายามอย่าให้ยุงกัด อีกทั้งยังควรกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายให้สิ้นซาก เพื่อเป็นการตัดวงจรการขยายพันธุ์และป้องกันโรคที่อาจมากับยุงลายนอกเหนือไวรัสซิกาได้แก่ โรคไข้เลือดออก โรคไข้เหลือง โรคไข้เวสต์ไนล์ และโรคชิคุนกุนยา
สถานการณ์ของไวรัสซิกาในต่างประเทศ
จากรายงานของขององค์การอนามัยโลกพบว่าเชื้อไวรัสซิกาได้ระบาดในแถบทวีปอเมริกาใต้อย่างหนักมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2558 โดยเฉพาะในประเทศบราซิลและโคลอมเบีย ซึ่งประเทศบราซิลถือเป็นประเทศที่มีการระบาดหนักที่สุดจนถึงขั้นต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังพบเด็กทารกแรกเกิดติดเชื้อและมีความผิดปกติทางสมองเกือบ 4 พันราย ส่วนในประเทศโคลอมเบียมีการคาดการณ์ว่าการระบาดของไวรัสซิกาอาจทำให้มีผู้ป่วยถึง 600,000-700,000 คน ทางกระทรวงสาธารณสุขโคลอมเบียจึงออกประกาศแนะนำให้สตรีเลื่อนการตั้งครรภ์ออกไป 6-8 เดือนเพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อไวรัสดังกล่าว ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขของสหรัฐอเมริกา ก็วิตกกังวลกับสถานการณ์การระบาดดังกล่าว จึงออกประกาศเตือนให้หญิงที่ตั้งครรภ์และบุคคลทั่วไปเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศที่มีการระบาดของโรค ต่อมาเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2559 องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ประกาศให้การระบาดของไวรัสซิกา เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ โดย แพทย์หญิงมาร์กาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ระบุว่า การประกาศครั้งนี้เพื่อทำให้นานาชาติร่วมมือในการปรับปรุง และส่งเสริมการตรวจหาผู้ติดเชื้อ อีกทั้งเพื่อให้เกิดการเร่งมือด้านการพัฒนาวัคซีนและการวินิจฉัยโรคที่ดีกว่าเดิม แม้ยังไม่จำเป็นต้องออกข้อจำกัดด้านการค้าและการเดินทาง ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก ระบุด้วยว่า การประกาศภาวะฉุกเฉินครั้งนี้สมเหตุสมผลแล้ว จากเหตุผลทั้งความเร็วของการระบาดของเชื้อไวรัสที่มียุงลายเป็นพาหะชนิดนี้ และข้อสงสัยที่ว่า มันอาจมีความเชื่อมโยงกับการเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมากของเด็กทารกที่เกิดมาพร้อมภาวะศีรษะเล็กในพื้นที่ที่ไวรัสนี้แพร่กระจาย ซึ่งการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ เป็นไปตามคำแนะนำของเหล่าคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญอิสระขององค์การอนามัยโลก สำหรับประเทศที่มีการระบาดของไวรัสซิกาตามรายงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค หรือ CDC (Centers for Disease Control and Prevention) ประเทศสหรัฐอเมริกา (ข้อมูล ณ วันที่ 26 พฤษภาคม 2559) มีทั้งหมด 48 ประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในทวีปอเมริกา ทั้งอเมริกาเหนือ อเมริกากลาง อเมริกาใต้
สถานการณ์ของไวรัสซิกาในประเทศไทย
ถ้าได้ติดตามข่าวคงพอทราบว่า เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2559 กองควบคุมโรคของไต้หวัน ได้ออกมาประกาศว่าพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสซิกา 1 ราย เป็นชายไทยที่เดินทางเข้าไปทำงานในไต้หวันผ่านทางสนามบินนานาชาติเถาหยวนเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2559 โดยได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสซิกาหลังจากเจ้าหน้าที่สนามบินพบว่าชายดังกล่าวมีไข้สูงผิดปกติจึงนำตัวไปตรวจเลือดเพื่อวินิจฉัยอย่างละเอียด ส่วนผู้ร่วมเดินทางมาด้วยกันอีก 2 คน เมื่อตรวจแล้วก็ไม่พบเชื้อดังกล่าวแต่อย่างใด ในส่วนของประเทศไทยเอง กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า จริง ๆ แล้วไวรัสซิกาสามารถพบได้ในทุกภาคของประเทศไทย โดยพบรอยโรคมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2506 แต่มาพบผู้ป่วยรายแรกเมื่อปี พ.ศ. 2555 และตั้งแต่นั้นมาก็พบผู้ป่วยเฉลี่ยปีละ 2-5 ราย ซึ่งผู้ป่วยทุกรายหายได้เอง และยังไม่เคยมีรายงานการติดเชื้อไวรัสซิกาในหญิงตั้งครรภ์ จนทำให้เด็กเกิดความพิการ จากนั้นเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2559 กรมควบคุมโรคแถลงว่าพบผู้ป่วยชาย 1 ราย แต่เข้ารับการรักษาจนหายดีแล้ว อย่างไรก็ตามแม้จะยังไม่พบการระบาดในประเทศไทย แต่กระทรวงสาธารณสุขก็ได้ออกประกาศจัดให้ "โรคติดเชื้อไวรัสซิกา" เป็นหนึ่งใน
โรคติดต่อที่ต้องแจ้งความ
ต่อมาเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2559 ได้พบผู้ป่วยไวรัสซิกาที่ ต.เชียงดา อ.สร้างคอม จ.อุดรธานี หลังเดินทางกลับมาจากไต้หวัน และเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2559 ปลัดกระทรวงมหาดไทยได้ส่งหนังสือด่วนที่สุดแจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เพชรบูรณ์ บึงกาฬ และเชียงใหม่ ให้ความสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุขในการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสซิกา หลังศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหภาพยุโรป (European Center for Disease Prevention and Control) ระบุเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2559 ว่า สถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสซิกาใน 4 จังหวัดของประเทศไทยอยู่ในระดับสีแดง คือมีการแพร่กระจายของโรคอย่างกว้างขวางในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ได้รู้จักกันมากขึ้นแล้วกับโรคไวรัสซิกา คราวนี้ก็อยู่ที่ตัวของเราเองนี่ล่ะค่ะที่จะต้องดูแลรักษาสุขภาพของตัวเองให้ดี ยิ่งถ้าหากใครที่ต้องเดินทางไปในประเทศที่มีการระบาดก็ควรใส่ใจสุขภาพให้มาก ไม่อยากเจ็บป่วยทีหลังก็อย่าชะล่าใจนะคะ ***หมายเหตุ : อัพเดทข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 08.47 น. วันที่ 30 สิงหาคม 2559 ขอบคุณข้อมูลจาก www. kapook.com กรมควบคุมโรค Taiwan Centers for Disease Control กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข krobkruakao.com World Health Organization paho.org
ตอบโดย :
เจ้าหน้าที่เทศบาลนครหาดใหญ่