เทศบาลนครหาดใหญ่ ร่วมกับ การรถไฟแห่งประเทศไทย ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนรถยนต์ลอดใต้ทางรถไฟในเขตพื้นที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ภายใต้ชื่อ “อุโมงค์กัลยาณมิตร” เชื่อมต่อบริเวณปลายซอย 7 ถนนนิพัทธ์สงเคราะห์ 1 กับ ซอย 14 โชคสมาน 5 เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจร และเพิ่มความสะดวกในการสัญจรให้กับประชาชน อีกทั้งเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการปรับตัวและเพิ่มขีดความสามารถให้กับนครหาดใหญ่สามารถรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (AEC) ได้อย่างสมบูรณ์ โดยเปิดใช้อย่างเป็นทางการแล้ว ในวันที่ 5 ธันวาคม 2559 โดยประธานในพิธี ดร.ไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่
ทั้งนี้ จากสภาพการจราจรภายในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ที่มีความหนาแน่นเป็นอย่างมาก ประกอบกับการจราจรที่ติดขัดภายในตัวเมืองได้ขยายตัวเป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้น ทำให้ส่งผลกระทบกับธุรกิจการค้า การท่องเที่ยว และการดำเนินชีวิตของประชาชน ซึ่งจากปัญหาดังกล่าวเทศบาลนครหาดใหญ่ จึงได้ดำเนินการสำรวจสภาพปัญหาการจราจรในพื้นที่โดยรอบ เพื่อนำมาปรับใช้ในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เกิดโครงการก่อสร้างถนนรถยนต์ลอดใต้ทางรถไฟในเขตพื้นที่การรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณปลายซอย 7 ถนนนิพัทธ์สงเคราะห์ 1 เชื่อมต่อกับ ซอย 14 โชคสมาน 5 หรือ “อุโมงค์กัลยาณมิตร” ขึ้น เพื่อเพิ่มเส้นทางการจราจรให้แก่ประชาชนได้สัญจรไปมาอย่างสะดวก ทั้งยังเป็นการหลีกเลี่ยงปัญหาจราจรที่ติดขัดในตัวเมืองได้อีกทางหนึ่ง โดยทำการก่อสร้างสะพานสำหรับเป็นเส้นทางวิ่งของรถไฟ ขนาดความกว้าง 15.50 เมตร ยาว 17.00 เมตร และทำการก่อสร้างถนนคอนกรีตเป็นอุโมงค์ลอดใต้ทางรถไฟ โดยมีช่องจราจรเข้าเมืองกว้าง 6.00 เมตร และขาออกเมืองกว้าง 6.00 เมตร พร้อมทางเท้าเพื่อเชื่อมการจราจรระหว่างถนนฝั่งโชคสมาน กับ ถนนรัถการบริเวณหน้าโรงพยาบาลหาดใหญ่
ซึ่งโครงการก่อสร้าง“อุโมงค์กัลยาณมิตร”แห่งนี้ เทศบาลนครหาดใหญ่ ได้ร่วมกับ การรถไฟแห่งประเทศไทยดำเนินการก่อสร้าง โดยเทศบาลฯได้ดำเนินการขออนุญาตใช้สิทธิเหนือพื้นดินจากการรถไฟแห่งประเทศไทยเพื่อทำการก่อสร้าง และทางการรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นผู้ดำเนินการออกแบบและดำเนินการก่อสร้างเอง เนื่องจากโครงการฯ นี้ ได้ดำเนินการในเขตพื้นที่ทางรถไฟ และเกี่ยวข้องกับระบบความปลอดภัยและการควบคุมการเดินของรถไฟโดยตรง โดยมีเทศบาลนครหาดใหญ่เป็นผู้สนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการ เป็นจำนวนเงินกว่า 42 ล้านบาท
โดย “อุโมงค์กัลยาณมิตร” จะสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนชาวนครหาดใหญ่ และประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงเป็นอย่างมาก ทั้งยังเป็นการลดระยะเวลาในการเดินทางของประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณฝั่งหาดใหญ่ในบริเวณฝั่งโชคสมาน ในการเดินทางมายังฝั่งถนนรัถการ รวมถึงช่วยแก้ปัญหาจราจรและบรรเทาความแออัดของรถบริเวณหน้าโรงพยาบาลหาดใหญ่ ตลอดจนส่งผลดีให้กับธุรกิจการค้าการลงทุน และท่องเที่ยว เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (AEC) ของนครหาดใหญ่อีกด้วย